ฟักทอง สัญลักษณ์วันฮาโลวีน เริ่มมาจากไหน

ฟักทอง ผักตระกูลฟัก สีส้มอร่าม ลูกโตและเล็กๆที่วางเรียงรายอยู่หน้าบ้าน พร้อมแสงไฟเล็กๆภายในฟักทองที่มีใบหน้าน่ากลัวเหล่านั้น หากเดินตามถนนยามค่ำคืนจะรู้สึกว่าถูกมองอยู่ตลอดเวลา แต่รู้ไหมว่าทำไมฟักทองถึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน แล้วใครริเริ่มกันแน่ แน่นอนว่าหลายคนอาจเคยเห็นแน่นอนกับการมีฟักทองลูกโตๆตั้งอยู่ในงานเทศกาลฮาโลวีน บางลูกก็มีการแกะสลักหน้าตาให้มันและใส่เทียนหรือแสงไฟเข้าไปข้างใน ทำให้มองเห็นเป็นหน้าตาของมันซึ่งหากมองเห็นตอนกลางคืนก็ดูจะสยองไม่น้อย แต่รู้ไหมว่า ชื่อของฟักทองแกะสลักเหล่านี้มีชื่อด้วยนะ ชื่อของมันคือ Jack-o’-lantern และจุดกำเนิดของมันไม่ได้มาจากอเมริกาอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ฟักทองจะสุกงอมและอุดมสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ร่วง ทันเวลาเก็บเกี่ยวสำหรับเทศกาลฮาโลวีนพอดี ผลไม้สีส้มขนาดใหญ่เหล่านี้จะถูกนำมาใช้เป็นของตกแต่งและอาหาร เมื่อเดินบนถนนยามค่ำคืนจะพบว่ามันจะอยู่ทุกที่ที่คุณไป บางที่ถึงกับมีการจัดแข่งโยนฟักทอง แข่งแต่งหน้าสุดหลอนของมัน และแข่งทำอาหารจากฟักทองอย่างสร้างสรรค์ แต่ประวัติความเป็นมาของมันก็น่าสนใจไม่น้อย ในสมัยก่อนคนจะยังไม่ใช้ฟักทองในการมาเป็นตัวแทนของเทศกาลแต่จะใช้หัวผักกาด แต่ต่อมา คติชนวิทยาของเซลติกพบสิ่งที่จะมาแทนที่หัวผักกาดเหล่านี้ เขาริเริ่มที่จะนำฟักทองมาใช้เนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพอดี เชื่อกันว่าการวางฟักทองไว้หน้าบ้านและที่ต่างๆจะช่วยปัดเป่าวิญญาณผีเร่ร่อนได้ ฟักทองเป็นผักตระกูลฟักชนิดหนึ่ง ที่ถูกพบครั้งแรกในทวีปอเมริกา และมักขึ้นในแถบของอเมริกากลางและเม็กซิโก ชนพื้นเมืองอเมริกันนำเมล็ดฟักทองไปยังพื้นที่ต่างๆทางอเมริกาเหนือด้วย ทำให้พืชพันธุ์ของมันเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีป พวกเขามักหั่นฟักทองเป็นเส้นยาวๆแล้วเอามาย่างกินกัน นอกจากนี้พวกเขายังทอฟักทองแห้งให้เป็นเสื่อ และพวกเขานำเมล็ดมันมากินและใช้เป็นยาด้วย ในยุคที่โคลัมบัสพบทวีปอเมริกา เขาได้นำเมล็ดพันธุ์ของฟักทองกลับมายังยุโรปด้วย แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศต่างๆไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของฟักทองเท่าไหร่นัก “ฌัก การ์ตีเยหรือคาร์เทียร์” นักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้ค้นพบและบุกเบิกแคนาดา พบฟักทองครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1584 ในตอนนั้นเขาเรียกฟักทองว่า “เฟปอน (pepons)” ซึ่งเป็นคำภาษากรีกแปลว่า แตงขนาดใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เปลี่ยนชื่อมันเป็นฟักทอง เมื่อชาวอาณานิคมดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา พวกเขาเริ่มใช้ฟักทองเป็นอาหาร แต่การนำพวกมันมาเป็นส่วนหนึ่งของวันฮาโลวีนนั้นเกิดจากอิทธิพลของผู้อพยพชาวไอริช ผู้อพยพชาวไอริชยุคแรกเมื่อเดินทางไปสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้นำประเพณีการทำ […]

3 เรื่องน่ารู้ของวันฮาโลวีน

เด็กๆ อาจจะพอรู้กันว่า ในต่างประเทศนั้น เทศกาลวันฮาโลวีน คือวันที่ผู้คนจะแต่งตัวเป็นผี เพื่อเฉลิมฉลอง ปาร์ตี้ ส่วนเด็กๆ ก็ออกเดินไปเคาะประตูตามบ้านผู้คนก่อนพูดว่า Trick or Treat! เพื่อขอขนมและลูกกวาดกลับมาแต่มีใครเคยสงสัยไหมคะว่า วันฮาโลวีนนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงจะต้องเฉลิมฉลองและจะต้องแต่งตัวเป็นผี สรุปแล้ววันนี้มันมีความสำคัญยังไงกันแน่นะ เพื่อต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีน วันนี้มี 3 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันปล่อยผีมาฝากเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 1.เล่นแต่งเป็นผี เพื่อให้ผีกลัว ฟังแล้วอาจจะแปลกไปสักหน่อย แต่นี่เป็นความเชื่อของชาวเซลท์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ พวกเขาเชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี จะเป็นวันที่มิติของคนตายและคนที่ยังมีชีวิตเชื่อมเข้าหากัน ทำให้เหล่าวิญญาณได้มองหาร่างของคนที่ต้องการ เพื่อเข้าสิง ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวเซลท์จึงแต่งตัวให้แปลกประหลาด บ้างก็แต่งเป็นผีร้าย เพื่อหลอกให้ผีจริงเกรงกลัว และไม่กล้าเข้าสิงนั่น 2.ก่อนเป็นฟักทองสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เคยเป็นหัวผักกาดมาก่อนนะ มีใครทราบไหมคะว่าสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนแต่เดิมนั้นไม่ได้เป็นฟักทอง แต่มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า แท้จริงแล้วเป็นหัวผักกาดที่ได้นำมาแกะสลักแล้วจุดไฟใส่ลงไปเพื่อนำทางให้กับวิญญาณของ jack-o’-lantern คนเจ้าเล่ห์ ที่เคยใช้อุบายหลอกล่อซาตานจนติดกับและบีบบังคับให้ซาตานรับปากว่า ถ้าเขาตายไปซาตานจะไม่พาวิญญาณของเขาไปลงนรก เมื่อแจ็กเสียชีวิตลง และวิญญาณได้ไปพบกับซาตานคู่ปรับที่ปากทางลงนรก จึงทวงถามสัญญาที่เคยให้ได้ ซาตานจึงจำใจต้องปล่อยวิญญาณของแจ็กไปตามที่เคยรับปาก พร้อมถ่านจุดไฟ ซึ่งแจ็กได้นำมันไปใส่ไว้ในหัวผักกาด และกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของตำนานฮาโลวีนมาตั้งแต่โบราณ ต่อมา […]

ทำไมต้องแต่งตัวเป็นผีในวันฮาโลวีน

ทำไมต้องแต่งตัวเป็นผี วันปล่อยผี ฮาโลวีน วันปล่อยผี ฮาโลวีน ต้นกำเนิดของวันฮัลโลวีนสามารถย้อนไปถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวเซลติกของชนเผ่าพื้นเมืองในไอร์แลนด์ ชาวเคลต์ถือว่าวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นวันปีใหม่ และเชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคมเป็นวันที่มิติของคนเป็นและคนตายเชื่อมต่อกัน และวิญญาณของผู้ตายพบร่างที่ถูกสิงและนำมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพื่อปัดเป่าความปรารถนาของวิญญาณชั่วร้าย ชาวเคลต์ถูกบังคับให้ปิดไฟทั้งหมดในบ้านและทำให้อากาศเย็น เสื้อผ้าแปลกๆ ยังปลอมตัวเป็นผีและส่งเสียงดังเพื่อไล่ผีจริงๆ นอกจากคืนนี้แล้วยังมีการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวอีกด้วย โดยนำสัตว์และผลไม้มาบูชาภูติผีปีศาจ ต่อมาในช่วงเวลาที่คริสตังต้องการยุติการฉลองของชาวเซลติกซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่คริสเตียน ระลึกถึงนักบุญและผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่งานเฉลิมฉลองคืน “วันฮาโลวีน” วันที่ 31 ตุลาคม ยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ เรียกอีกอย่างว่าหัวฟักทอง Jack O’Lanterns Jack O’Lanterns สำหรับวันฮาโลวีน ที่ไม่ควรพลาดคือหัวฟักทองที่แกะสลักจากเทียน สิ่งที่ผู้คนใช้ประดับหน้าบ้านในยามค่ำคืน ที่มาของประเพณีนี้เป็นเรื่องเล่าในนิทานพื้นบ้านของชาวไอริช เล่าถึงที่มาของชาวนาเจ้าเล่ห์นามว่า “แจ็ค” ซึ่งในช่วงนั้นปีศาจได้ออกไปขอพืชผลจากชาวบ้าน ไม่มีบ้านใดกล้าปฏิเสธเพราะกลัวคำสาป แต่แจ็คไม่กลัวและไม่ได้ให้อะไรกับปีศาจ อยู่มาวันหนึ่งปีศาจแอบปรากฏตัวให้แจ็ค อยากให้เขาเปลี่ยนใจเปลี่ยนเป็นกลัว แต่กลายเป็นว่า Jack หลอกปีศาจไปที่ต้นไม้ และเขียนไม้กางเขนไว้ที่โคนต้นไม้จนมารติดกับดักไม่สามารถหนีไปได้จึงได้ทำสัญญากับมารว่าจะไม่นำสิ่งชั่วร้ายมาล่อลวงเขาอีกและจะไม่นำเขาไปสู่นรก ทำอย่างไร . เขาจึงปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายอย่างคนชั่ว เขาไม่ได้ไปสวรรค์ แต่คุณไม่สามารถลงนรกได้ ทำให้แจ็คกลายเป็นวิญญาณพเนจรไปตลอดกาล จากนั้นปีศาจก็มอบถ่านที่คุกรุ่นให้กับเขา […]